ในช่วงปี 2023 ที่ผ่านมาคำว่า Generative AI ถูกพูดถึงอย่างมาก เราว่าเพื่อน ๆ คงได้ยินผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง ซึ่งในปี 2024 ก็มีแนวโน้มที่จะพัฒนา AI ใหม่ ๆ ออกมาให้เราได้ทดลองเล่นกันอีกมากมาย เพื่อเตรียมตัวรับมือกับ Generative AI ที่จะมาในอนาคต ในบทความนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกันทุกซอกทุกมุมกับ Generative AI คืออะไร มีกี่ประเภท เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม
ทำความรู้จัก Generative AI
เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ Generative AI กันอยู่แล้ว จาก AI ยอดฮิตอย่าง ChatGPT หรือ Midjourney ทั้ง 2 ตัวนี้ก็จัดว่าเป็น Generative AI เช่นกัน โดยเกิดจากการนำข้อมูลมากมายเข้ามาฝึกฝนให้กับโมเดลผ่านกระบวนการ Machine Learning ซึ่งเปรียบได้เหมือนคนหนึ่งคนที่ศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งมานานและมีความเชียวชาญ เพื่อให้ได้ AI ที่มีความสามารถในการสร้างใหม่จากข้อมูลที่มีอยู่
การทำงานของ Generative AI
Generative AI อย่างที่เราบอกว่าเปรียบเสมือนมนุษย์ที่เรียนรู้จากข้อมูล แล้วสิ่งที่ทำให้ AI เรียนรู้ได้เช่นนี้ก็คือโมเดล Machine Learning ที่เรียกว่า Neural Network (โครงข่ายประสาทเทียม) ที่อิงมาจากการทำงานของสมองคนเรานี่แหละ ซึ่งเป็นโมเดลแบบ Unsupervised ทำให้โมเดลสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง ทำให้มีความสามารถในการจดจำและคิดเพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่ใกล้เคียงกับข้อมูลที่มี
Generative AI ใช้อะไรได้บ้าง
ในช่วงที่ผ่านมามี Generative AI เกิดขึ้นมาใหม่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเรามองว่าถ้าเพื่อน ๆ เข้าใจเกี่ยวกับพวกมันมากขึ้น AI เหล่านี้ ก็จะเป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันหรืองานของเพื่อน ๆ เป็นอย่างมาก ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าเราจะใช้งานได้ยังไงกันบ้าง
ค้นหาข้อมูลและสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ
การค้นหาข้อมูลด้วย AI ปัจจุบันนั้นก็ทำได้ง่ายดายมากขึ้น จนถึงขั้นที่หลากหลายอาชีพต้องปรับตัวกันยกใหญ่ ด้วย Generative AI หลายตัวที่ออกมาอย่าง ChatGPT, Bing และ Gemini ที่เพียงเข้าใปถามคำถามในแพลตฟอร์มของแต่ละตัว ก็จะได้คำตอบ หรือช่วยในการทำงานได้ ตัวอย่างเช่น เราที่ทำ SEO เป็นหลักก็ได้ใช้ AI เหล่านี้ในการหา Keyword ไอเดียอยู่เสมอ ซึ่ง AI เหล่านี้ไม่เพียงแต่จะตอบคำถามของเพื่อน ๆ จากข้อมูลที่มีแต่ยังมีความสามารถในการค้นหาจากอินเทอร์เน็ตและเรียบเรียงมาให้ได้อีกด้วย
ช่วยลดเวลาในการทำงาน
งานหลาย ๆ อย่างที่ต้องใช้เวลาอย่างงานกราฟฟิคดีไซน์ ออกแบบโลโก้ หรือการเขียนบทความ AI ก็สามารถเข้ามาช่วยให้ทำงานได้รวดเร็ว เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเพียงแค่เพื่อน ๆ มีไอเดียหรือหัวข้อที่ต้องการ อย่างโลโก้ของเว็บไซต์เราที่เพื่อน ๆ เห็นก็ถูกสร้างขึ้นมจาก Generative AI จาก BrandCrowd ด้วยเช่นกัน
เพื่อนคู่ใจในการเขียนโค้ด
การเขียนโค้ดจะไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่เพื่อน ๆ คิดถ้าได้ลองใช้ Generative AI เข้ามาช่วย แม้ว่าจะบางครั้งอาจจะไม่ได้ถูกต้อง 100% แต่เราก็ได้ AI ช่วยไว้หลายครั้ง ไม่เพียงแค่จะช่วย Gen Code ให้เพื่อน ๆ ได้เท่านั้นแต่ยังสามารถแปลโค้ดจากภาษาหนึ่งไปอีกภาษาได้ ทั้งยังอธิบายโค้ดส่วนต่าง ๆ ให้อีกด้วย ถ้าเพื่อน ๆ พึ่งเริ่มต้นศึกษาการเขียนโปรแกรม ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีมาก ๆ
ประเภทของ Generative AI
มาถึงประเภทของ Generative AI ที่ให้เลือกใช้มีมากมายเหลือเกิน แล้วเพื่อน ๆ จะเลือกใช้ยังไงให้แมตท์กับความต้องการกันหละ
Text Generation
Text Generation เป็น Generative AI ที่เราพูดถึงบ่อยที่สุดแล้วก็ว่าได้ โดยจะเป็น AI ที่เพื่อน ๆ สามารถกำหนดคำสั่งต่าง ๆ ที่เรียกว่า Prompt แล้ว AI จะสรุปสร้างคำพูด และตอบคำถามด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้องและถูกเรียบเรียงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ที่เห็นกันบ่อย ๆ คงหนีไม่พ้น ChatGPT ที่ออกมาสร้างเสียงฮือฮาเมื่อช่วงที่เปิดตัว ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ข้อมูลเท่านั้น การถามตอบทั่ว ๆ ไปยังสามารถทำได้ ถ้าเพื่อน ๆ ทันเจ้าลูกเจี๊ยบ Simsimi กัน เจ้าหนูนี่ก็ถือเป็น Text Generation ที่สามารถพูดคุยโต้ตอบและเรียนรู้จากบทสนทนาที่ทุกคนจากทั่วโลกเข้าไปแชทกับมัน
Code Generation
ส่วนของการเขียนโค้ดก็ไม่น้อยหน้า มี Generative AI ที่ช่วยในการเขียนโค้ดโดยเฉพาะ แม้ว่าตัว Text Generation ก็สามารถทำได้เช่นกันแต่อย่างที่เราบอกว่าบางทีก็งง ๆ นิดหน่อยตัว Code Generation ก็จะเข้ามาช่วยให้เรียนรู้และเขียนโค้ดได้ง่ายยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น OpenAI Codex ที่ใช้ Codex Model ซึ่งเรียนรู้จากข้อมูลโค้ดและเปเปอร์จากทั่วโลก ทำให้สร้างโค้ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังแนะนำการเขียนโค้ดให้กับทุกคนได้อีกด้วย
Image Generation
Image Generation เป็นการสร้างรูปภาพโดยการป้อนคำสั่งหรือ Prompt ในการอธิบายให้ตัว AI เข้าใจและสร้างรูปภาพที่สมจริง ซึ่ง Generative AI ในกลุ่มนี้ยังสร้างภาพออกมาได้หลายแบบหลายสไตล์ พร้อมปรับเปลี่ยนมุมมอง และถูกนำมาใช้ในงานออกแบบหลาย ๆ อย่างเช่นงานกราฟฟิค ออกแบบสินค้า ทำให้การงานออกแบบง่ายมากขึ้น ยิ่งถ้าเพื่อน ๆ ไม่ถนัดงานออกแบบ ก็จะช่วยงานได้เป็นอย่างดี ตัวอย่าง Image Generation ก็คือ Midjourney ที่เป็น AI สร้างรูปภาพยอดนิยมที่ใช้งานง่าย ๆ ได้ในดิสคอร์ดหรือ DALL-E ที่นิยมไม่แพ้กัน
Speech Generation
Speech Generation เป็น Generative Ai ในการแปลงข้อความให้เป็นเสียงพูดหรือเรียกอีกอย่างว่า AI Voice Generator โดยอาศัยระบบ Text-To-Speech ในการแปลงคำ ซึ่งก็ถูกใช้งานอย่างหลากหลายที่คุ้นเคยกันคงหนีไม่พ้น Siri ที่ใช้ระบบนี้ในการแปลงคำพูดของเราเป็นข้อความแล้วให้ AI ตอบกลับเป็นข้อความก่อนแปลงเป็นเสียงพูดตอบกลับเพื่อน ๆ มา นอกจากนี้การทำเพลงส่วนหนึ่งยังอาศัย Speech Generation ในการแปลงเนื้อเพลงให้เป็นเสียงร้องอีกด้วย
Music Generation
การแต่งเพลงเป็นของตัวเองจะเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย Music Generation ซึ่งเป็น AI สำหรับแต่เพลงต้นฉบับของตัวเอง จากการวิเคราะห์ของโมเดลที่เรียนรู้จากข้อมูลทั้ง โน๊ตเพลง การเรียบเรียงดนตรี และการบันทึกเสียง จึงสร้างเพลงขึ้นมาได้อย่างลื่นไหล ในแนวทางที่เพื่อน ๆ ต้องการ ทำให้ตัว Music Generation เป็นตัวช่วยให้การทำเพลงในปัจจุบันง่ายมากยิ่งขึ้น ทั้งนักดนตรี โปรดิวเซอร์หรือคนทั่วไปที่อยากทำเพลงของตัวเอง ตัว Music Generation ก็มีหลากหลายตัวอย่าง Suno และ Soundraw ซึ่งเราก็มีตัวอย่างเพลงที่เราสร้างจาก AI ให้เพื่อน ๆ ลองฟังกันดูด้านล่างได้เลย
Video Generation
แม้แต่การทำคลิปวิดีโอในปัจจุบัน Video Generation เข้ามาช่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่สร้างวิดีโอใหม่ขึ้นมาแต่ยังสามารถปรับแก้วิดีโอของเพื่อน ๆ ให้ดีมากยิ่งขึ้น โดยหลักการทำงานของ Video Generation นั้นตัว AI จะทำการคาดการณ์เฟรมต่อไปของวีดิโอจากข้อมูลที่มีโดยอาศัยหลักการของ Text-To-Video ตัวอย่างเช่น Invideo AI ที่สร้างวีดิโอจาก Prompt เพียงไม่กี่คำ
AI ต่างกับกับ Generative AI ไหม
หลาย ๆ คนคงสงสัยกันว่าแล้วเจ้า Generative AI มันต่างจาก AI ทั่ว ๆ ไปยังไง ในความเป็นจริงแล้วก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ AI นั้นแหละ เพียงแต่ Generative AI ถูกพัฒนาให้มีความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่จากข้อมูลแบบตายตัวเท่านั้น ในปัจจุบันเราก็เห็นว่า Genrative AI นั้นถูกเรียกรวม ๆ ไปกับ AI กันหมดแล้ว ยังไงก็ตามก็คือ AI ชนิดนึงนั้นแหละ
แล้ว Generative AI ดีจริงไหม
หลังจากอวดสรรพคุณกันมาพอสมควรแล้ว เพื่อน ๆ อาจจะมองว่า Generative AI นั้นมีประโยชน์สุด ๆ ไปเลยนี่หน่า แต่ก็ต้องเสียใจด้วยเพราะเหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ ถ้าเพื่อน ๆ สังเกตกันดี ๆ จะเห็นว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ Generative AI ทำได้นั้นแทบไม่ต่างกับมนุษย์เลย ในอนาคตก็มีความเป็นไปได้ที่ AI พวกนี้จะเข้ามาแทนทีมนุษย์ได้ในสักวัน ยังไงก็ตามเพื่อน ๆ ก็อย่าพึ่งกังวลกันไป ในมุมมองของเราคิดว่ายังไม่ใช่ในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน
แม้ว่า AI จะทำอะไรได้มากมายก็ยังต้องเรียนรู้จากสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นและยังต้องมีคนที่เชียวชาญในด้านนั้น ๆ มาใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพได้จริง ๆ ทั้งยังปัญหาด้านลิขสิทธิ์ในข้อมูลที่นำมาฝึกฝน AI ที่ถกเถียงกันอยู่ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือดนตรีก็ตาม ที่ AI สร้างออกคล้ายคลึงกับงานต้นฉบับ อย่างไรก็ดีเราก็คงได้แต่ปรับตัวและหันมาศึกษาเกี่ยวกับ Generative AI ในการเตรียมความพร้อมและเป็นหนึ่งในคนที่ใช้งาน AI ได้ดี เพื่อโอกาศในอนาคต
ก็จบกันไปแล้วกับ Generative AI คืออะไร การที่เพื่อน ๆ อ่านกันมาถึงตรงนี้เราต้องบอกเลยว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดี ในการเตรียมตัวสู่ยุคที่ AI จะบานออกมาเป็นดอกเห็ด LearningFeel หวังว่าเพื่อน ๆ จะเข้าใจและได้ทดลองใช้ AI ในชีวิตประจำวันกันได้อย่างสนุกสนาน ไว้เราจะมาแนะนำ AI ดี ๆ และทดลองใช้สร้างสรรค์ผลงานให้กับเพื่อน ๆ ได้รับชมกันในครั้งต่อไป รอติดตามชมกันได้เลย