หลังจากเราได้พาเพื่อน ๆ ทำความรู้จักกับ Data Visualization คืออะไรได้ไปลองทำบ้างหรือเปล่า ในวันนี้เราจะมาแนะนำ 9 เครื่องมือ Data Visualization Tools ให้กับทุกคนแบบจัดหนักจัดเต็ม ให้เพื่อน ๆ ได้เลือกใช้งานได้ตามความถนัดกันได้เลย ถ้าอดใจกันไม่ไหวแล้วก็ตามเรามากับ แนะนำ 9 Data Visualization tool สร้าง Dashboard ง่าย ๆ พร้อมใช้งาน
Pythol
เครื่องมือแรกที่เราจะแนะนำก็คือภาษา Python ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและสารพัดประโยชน์สุด ๆ ในการทำ Data ซึ่งการสร้าง Data Visualization ก็สามารถใช้ภาษา Python ได้ด้วยเช่นกัน โดยเพื่อน ๆ สามารถเรียกดูกราฟ ในหลาย ๆ รูปแบบไม่ว่าจะเป็น Bar Chart, Histrogram, Box Plot, Scatter Plot และอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งยังเป็น Open Source ที่สามารถใช้งานได้ฟรีไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ และมีเครื่องมือให้เลือกเข้าไปใช้งาน Python ได้หลากหลาย โดยอาศัย Library ดังนี้
- Matplotlib – Library หลักในการสร้างกราฟในภาษา Python ที่มีคำสั่งในการสร้างกราฟหลากหลายรูปแบบ ถือเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการสร้างกราฟ
- Seaborn – Library ที่เข้ามาช่วยในการตกแต่งกราฟที่พลอตจาก Matplotlib ให้สวยงามและสามารถอ่านค่าได้เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น
ซึ่ง Library ทั้งสองตัวจะเข้ามาช่วยในการสร้างกราฟ ได้อย่างง่ายได้เพียงไม่กี่ Syntax ยังไงก็ดี Python นั้นเหมาะกับการสร้างกราฟขึ้นมาดูข้อมูลแบบเร็ว ๆ มากกว่าการสร้าง Real-Time Dashboard แม้ว่าการสร้าง Data visualization ในรูปแบบกราฟออกมาจะไม่ได้ยากเท่าไหร่นัก แต่หากจะสร้าง Dashboard ความยุ่งยากก็จะเพิ่มขึ้นมาก ๆ เราจึงมองว่า Python เหมาะกับการเรียกดูกราฟ แบบเร็ว ๆ เสียมากกว่า
จุดเด่น | ข้อสังเกตุ |
---|---|
– เป็น Open Source ที่ Community เติบโตอย่างรวดเร็ว – สามารถใช้งานได้ฟรีเต็มรูปแบบผ่านเครื่องมือมากมาย เช่น Pycharm, Jupiter Notebook หรือ Google Collab – เรียกดูข้อมูลได้ทันที และตรงจุด – นำไปประยุกต์ใช้กับเครื่องมืออื่น ๆ ได้ – รองรับข้อมูลประมาณมากได้ – ภาษาเข้าใจง่าย เหมาะกับมือใหม่ | – หากไม่มีประสบการณ์กับภาษาคอมพิวเตอร์เลย จะใช้งานค่อนข้างยาก – การสร้าง Dashboard ค่อนข้างยุ่งยากกว่าเครื่องมืออื่น ๆ – โปรแกรมทำงานผ่าน Interpreter ทำให้ค่อนข้างช้า |
R
อีกหนึ่งภาษาคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ในการทำ Data Visualization ได้ก็คือภาษา R ซึ่งเป็นเครื่องมือในการสร้าง Data Visualization ผ่านชุดคำสั่งในฟังก์ชัน ggplot2 ซึ่งเป็นฟังก์ชันยอดนิยมในโปรแกรม R ที่มีความยืดหยุ่นสูง และให้ความสำคัญกับการสร้างกราฟให้ออกมาอย่างสวยงามและเข้าใจง่าย
การสร้างกราฟด้วย R จะเริ่มต้อนด้วยฟังก์ชัน ggplot() ในการกำหนดลหลักและลักษณะของกราฟ และตามด้วยฟังก์ชัน อื่น ๆ อย่าง geom_point(), geom_line() หรือ geom_bar()เพื่อกำหนดกราฟที่ต้องการ ทั้งยังสามารถกำหนดสีหรือแบ่งกราฟออกเป็นส่วน ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแนวคิดชั้นของข้อมูล (Data Layering) และกฏการกำหนดลักษณะกราฟ (Aesthetic Mapping) ซึ่งเราต้องบอกเลยว่าภาษา R เป็นภาษาที่ถูกสร้างมาเพื่อใช้งานด้านข้อมูลและสถิติเป็นหลัก การเรียกดูกราฟต่าง ๆ จึงทำได้ง่ายเพียงโค้ดไม่กี่บรรทัดเท่านั้น
จุดเด่น | ข้อสังเกตุ |
---|---|
– ภาษาที่สร้างมาเพื่องานทางด้านข้อมูลเป็นหลัก – สร้างกราฟได้สวยงามและหลากหลาย – สามารถแบ่งกราฟเพื่อดูข้อมูลแต่ละส่วนได้ – เหมาะกับการเรียกดูและวิเคราะห์ข้อมูลในทันที | – อาศัยความเข้าใจในภาษา R – ไม่นิยมใช้สร้าง Dashboard |
Looker Studio
Looker Studio เครื่องมือ BI Tool สำหรับทำ Data Visualization จาก Google ที่แปลงโฉมมาจาก Google Data Studio ในช่วงตุลาคม 2565 ซึ่งฟีเจอร์หลัก ๆ ก็ยังคงอยู่อย่างครบถ้วน และยังอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดย Looker ถือเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถเลือกใช้กราฟต่าง ๆ ได้กว่า 30 แบบ รวมถึงดาวน์โหลดเพิ่มเติมผ่าน Community Visualizationsทำให้สามารถสร้าง Interactive Dashboard ได้หลากหลายและง่าย ๆ เพียง Drag-and-Drop
การเชื่อมต่อข้อมูลก็ทำได้หลากหลาย เช่น GSC, GA, Google Sheet, Facebook Ads, Tiktok Ads หรือ Open Source ต่าง ๆ ก็สามารถทำได้ การใช้งานร่วมกันเป็นทีมก็สามารถทำได้แค่แชร์ Report หรือ Dashboard ไปให้ เท่านั้น ที่สำคัญที่สุดคือใช้งานได้ฟรีแบบไม่มีกั๊ก ถ้าหากเพื่อน ๆ ต้องการใช้งานระดับองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้นก็ยังมี Pro version ให้เลือกใช้ แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะ เพื่อน ๆ สามารเข้าใช้งานผ่าน Browser ได้เลย ซึ่งเราต้องบอกเลยว่า Looker Studio เป็นเครื่องมือการสร้าง Data Visualization ที่เหมาะกับมือใหม่มาก ๆ เลย
จุดเด่น | ข้อสังเกตุ |
---|---|
– ใช้งานได้ฟรีแบบเต็มรูปแบบ – เข้าใช้งานผ่าน Browser ได้เลย – สร้าง Dashboard อย่างอิสระง่าย ๆ เพียง Drag-and-Drop – เชื่อมต่อข้มูลได้หลากหลายช่องทาง – แชร์ Report ได้ง่าย – เครื่องมือเริ่มต้นเหมาะกับมือใหม่ | – การใช้งานอาจมีการหน่วงบ้าง – หากต้องการฟีเจอร์ระดับองค์กรอาจจำเป็นต้องซื้อ Pro Version |
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://lookerstudio.google.com/
Endlessloop
Endlessloop เป็นเครื่องมือทางการตลาดสำหรับวางโครงสร้างแคมเปญและการติดตามผลลัพธ์ ถูกพัฒนาจากแนวคิดแบบ Growth ที่จะช่วยออกแบบทุกขั้นตอนการตัดสอนใจซื้อของลูกค้า ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้าง Data Visualization โดยจัดทำ Dashboard ในลักษณะของ Loop เพื่อน ๆ สามารถตั้งค่า Loop ของแต่ละ Persona ของแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อข้อมูลจากหลากหลายแหล่งไม่ว่าจะเป็น Google หรือ Facebook โดยระบบจะทำการดึงข้อมูลให้อัตโนมัติและแสดงผลลัพธ์ตาม Metric ที่กำหนดไว้ ทำให้เพื่อน ๆ สามารถประเมินสถานการณ์ได้ดีมากขึ้น ถือเป็นเครื่องมือที่เหมาะกับการใช้งานในองค์กรมาก ๆ
จุดเด่น | ข้อสังเกตุ |
---|---|
– เป็นเครื่องมือสำหรับทำการตลาดโดยเฉพาะ – Dashboard แบบ Loop – Report เป็น Dashboard ในหน้าเดียว – เหมาะสำหรับใช้งานในองค์กร – เชื่อมต่อ API กับหลากหลายช่องทาง | – ทดลองใช้งาน 60 วัน หลังจากนั้นมีค่าใช้จ่าย – Dashboard ปรับแต่งได้ตามรูปแบบที่กำหนด |
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://endlessloop.app
Microsoft Power BI
Data Visualization Tool จาก Microsoft เป็นหนึ่งใน BI Tool ยอดนิยม โดย Microsoft Power BI สามารถออกแบบ Dashboard ได้อย่างอิสระและยังมีเทมเพลตให้เลือกใช้ ให้เหมาะสมกับข้อมูลของเพื่อน ๆ ได้เลย การเรียกดูข้อมูลก็ดูได้หลายมุมมอง ทำให้เห็น Insight ได้มากขึ้น การเชื่อมต่อข้อมูลนั้นเชื่อมต่อกับโปรแกรมในเครือ Microsoft ได้อย่างไร้รอยต่อ นอกจากนี้ Dashboard ที่สร้างสามารถนำขึ้นไปแสดงบนเว็บไซต์ได้ผาน Embed code ได้อีกด้วย การใช้งานก็ทำได้ทั้ง Desktop และ Web App แต่การใช้งานใน Desktop ยังไม่รองรับการใช้งานบน MacOS
จุดเด่น | ข้อสังเกตุ |
---|---|
– สร้าง Dashboard ได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น – นำ Dashboard ไปแสดงบนหน้าเว็บผ่าน Embed code ได้ – มี Visualization เสริมให้ติดตั้ง – เชื่อมต่อข้อมูลได้หลากหลายแหล่ง – อัพเดตข้อมูลอัตโนมัติผ่าน Power BI Gateway ได้ – วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย Data Model ได้ | – Desktop Version ยังไม่รองรับ MacOS – มีค่าใช้จ่ายสำหรับใช้งานเต็มรูปแบบ |
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://powerbi.microsoft.com/en-us/
Tableau
อีกหนึ่งเครื่องมือ Business Intelligence Tool ที่ใช้งานง่ายมาก ๆ ใช้งานได้ทั้ง Window และ MacOS ซึ่ง Tableau ถือเป็น Data Visualization Tool ที่สร้าง Data Visualization ได้ง่าย ๆ แค่ไม่กี่คลิก ก็จะได้ Dashboard ที่สวยงาม การเชื่อมต่อแหล่งข้อมูลก็ทำได้จากหลากหลายแหล่งทั้งจากไฟล์ จนถึง Big Data นอกจากนี้ยังแชร์ Dashboard ได้ง่าย ๆ Tableau ยังมีการอัพเดตพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ ทำให้วิเคราะห์ข้อมูลได้หลากหลายมากขึ้น ถือเป็นเครื่องมือที่เหมาะกับมือใหม่จนถึงระดับมือโปรเลยหละ
จุดเด่น | ข้อสังเกตุ |
---|---|
– เหมาะกับมือใหม่ – สร้าง Dashboard ง่าย ๆ แค่ Drag-and-Drop – อัพเดตระบบอย่างสม่ำเสมอ – เชื่อมต่อข้อมูลได้หลากหลายช่องทาง – ใช้งานได้ทั้ง Desktop และ Web App | – ราคาแพ็คเกจค่อนข้างสูง |
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.tableau.com/
Fine Report
Fine Report เป็นเครื่องมือสร้าง Data Visualization ระดับสูงออกแบบบนญานแนวคิดแบบ No-Code Development ทำให้จัดการกับข้อมูลที่ซับซ้อนและสร้างรายงานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น การใช้งานก็ไม่ยุ่งยากเพียงแค่ Drag-and-Drop ก็จะได้ Dashboard สวย ๆ และเหมาะสมกับงาน แล้วเพื่อน ๆ สามารถเข้าไปทดลองใช้งานในรูปแบบ Web Reporting Tool ฟังก์ชันเริ่มต้นที่ Personal Version ได้ฟรี ๆ กันไปเลย
จุดเด่น | ข้อสังเกตุ |
---|---|
– เหมาะสำหรับใช้งานในองค์กร – หน้าตาคล้าย Excel ใช้งานง่าย – แผนภูมิและกราฟให้เลือกกว่า 50 แบบ – สร้าง Dashboard ได้หลากหลาย – มีระบบการวิเคราะห์การตัดสินใจข้อมูลที่ไม่ซับซ้อน – เชื่อมต่อข้อมูลได้ทุกประเภท | – ฟีเจอร์การใช้งานหลากหลาย |
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.finereport.com/en/
Databox
Data Visualization Tool ตัวถัดมาเป็นเครื่องมือ Business Analytics อย่าง Databox เหมาะกับงานระดับผู้บริหารที่ต้องการทำความเข้าใจภาพรวมทั้งหมดของธุรกิจในหน้าเดียว โดยสามารถดึงข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ได้มากกว่า 70 แหล่ง เข้ามาวิเคราะห์ แสดงข้อมูล และวัดผลติดตาม KPIs ที่ตั้งไว้ รวมถึงการใช้ Data Model ในการวิเคราะห์แนวโน้ม Performance จากข้อมูลในอดีตได้อีกด้วย ช่วยให้เพื่อน ๆ เข้าใจภาพรวมของธุรกิจและดำเนินแผนการตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานต่าง ๆ ได้ฟรีแต่ฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 49$ ต่อเดือน
จุดเด่น | ข้อสังเกตุ |
---|---|
– สร้าง Dashboard ได่ง่ายแค่ Drag-and-Drop – มีตัวอย่าง Dashboard และ Metric – เชื่อมต่อแหล่งข้อมูลได้กว่า 70 แหล่ง – ตั้งเป้าหมายและติดตาม KPIs และเปรียบเทียบข้อมูลได้ตั้งแต่รายวัน – วิเคราะห์แนวโน้มจากข้อมูลในอดีต – แชร์เรียกดู Dashboard แบบ Real-time ได้หลายช่องทาง | – ไม่เหมาะกับองค์กรที่มีข้อมูลที่ซับซ้อน |
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://databox.com
Zoho Analytic
เครื่องมีอสร้าง Data Visualization ตัวสุดท้ายที่เราจะแนะนำก็คือ Zoho Analytic ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ BI Tool อีกตัวหนึ่งที่ใช้งานได้ง่าย ช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถเห็น Insight ของข้อมูลจากการสร้างเป็นภาพได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่นาที และยังมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นสุด ๆ อย่างการ Auto Generate Dashboard ออกมาด้วย AI การใช้งานฟีเจอร์เริ่มต้นก็สามารถใช้งานได้ฟรี ส่วนการใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมดอาจจะราคาสูงไปสักนิด แต่ก็ช่วยให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่และยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบ CRM ได้โดยตรงอีกด้วย
จุดเด่น | ข้อสังเกตุ |
---|---|
– เริ่มต้นใช้งานได้ฟรีโดยเชื่อมต่อข้อมูลกับ Spreadsheet – สร้าง Dashboard ได้ง่าย ๆ ไม่ต้อง Coding – เชื่อมต่อข้อมูลได้จากหลายแหล่ง รวมถึงระบบ CRM – มีฟีเจอร์ Auto Generate ด้วย AI | – ราคาค่อนข้างสูง |
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.zoho.com/th/analytics/
และนี่คือทั้งหมดของ 9 Data Visulization Tool ที่เรามาแนะนำให้กับเพื่อน ๆ ในวันนี้ มีตัวไหนที่สนใจหยิบจับไปใช้กันบ้างหรือเปล่า ในปัจจุบันก็ยังมีเครื่องมืออีกมากมายให้เลือกใช้ ยังไงก็ดีทั้ง 9 ตัวที่เราแนะนำก็เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เลยหละ เพื่อน ๆ ก็ลองเลือกไปใช้ให้เหมาะสมกับข้อมูลของตัวเองดูได้เลย ในครั้งต่อไปเราจะแนะนำอะไรให้กับเพื่อน ๆ อีกก็อย่างลืมติดตามกันด้วยนะ